วันเสาร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2560

จุดประสงค์การเรียนรู้วิชาการพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์

จุดประสงค์การเรียนรู้ :1.ผู้เรียนสามารถรู้และเข้าใจความหมายของการพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ (Knowledge)
2. ผู้เรียนสามารถประยุกต์ใช้และพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ให้เหมาะกับวิชาสอนได้ (Do)
3. ผู้เรียนสามารถประยุกต์ใช้และพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ให้เหมาะกับผู้เรียนได้ (Do)
ตาราง 15 สัปดาห์ วิชาการพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์

ที่
กิจกรรม
ชิ้นงาน
1
ปฐมนิเทศ ชี้แจ้งวิชาเรียน เกณฑ์การให้คะแนน
-
2
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์แบบต่างๆ
-
3
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์แบบต่างๆ
-
4
รูปแบบการสอนเพื่อพัฒนาสติปัญญาและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
-
5
รูปแบบการสอนเพื่อพัฒนาสติปัญญาและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
-
6
สอบกลางภาค
คะแนนสอบ
7
รูปแบบการสอนที่เหมาะสมกับการสอนชีววิทยา เคมี และฟิสิกส์
-
8
รูปแบบการสอนที่เหมาะสมกับการสอนชีววิทยา เคมี และฟิสิกส์
-
9
รูปแบบการสอนที่เหมาะสมกับการสอนชีววิทยา เคมี และฟิสิกส์
-
10
พัฒนาบุคคลการเลือกรูปแบบในการสอนให้เหมาะสมกับนักเรียน
-
11
พัฒนาบุคคลการเลือกรูปแบบในการสอนให้เหมาะสมกับชั้นเรียน
-
12
การทดลองสอนตามรูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น
-
13
การทดลองสอนตามรูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น
-
14
นำเสนองาน
http://nattasornkanomal999.blogspot.com/
2017/03/32560.html
15
สอบปลายภาค
คะแนนสอบ

NPU Model



NPU Model คือ การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน โดยใช้วิจัยเป็นฐาน ที่มาจากนิยามศัพท์ของการวิจัย ที่ว่าการวิจัย หมายถึง กระบวนการแสวงหาความรู้ความจริงด้วยวิธีการที่เชื่อถือได้ผู้วิจัยนำแนวคิดการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสท์มาเป็นสาระสำคัญประกอบด้วยการทำความกระจ่างชัดในความรู้การเลือกรับและทำความเข้าใจ สารสนเทศใหม่และการตรวจสอบทบทวนและใช้ความรู้ใหม่ในทำนองเดียวกนผู้วิจัยได้ศึกษาแบบจำลอง  Biggs 3’P Model ตัวแปรก่อนเรียน(Presage) กระบวนการ(Process) และผลผลิต(Product) สอดคล้องกับแนวคิดการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์(Treffinger, Isaksen and Dorval, 2000) ประกอบด้วย
1)  ความเข้าใจที่ท้าทาย(Understanding the Challenge) มุ่งค้นหาจุดหมาย(goal)โอกาส (oppor-tunity) ความท้าทาย  (Challenge) ความกระจ่างชัด(clarifying) คิดแผนการ(formulating) เพื่อกำหนดกรอบ ความคิดสำคัญในการปฏิบัติงาน
2)  การสร้างมุมมองในการคิดแก้ปัญหา(Generating Ideas)
3)  การเตรียมทั้งวิธีการในการปฏิบัติงานและความสำเร็จในการปฏิบัติงาน(Preparing for Action)
ผู้วิจัยได้สังเคราะห์เป็นแบบจำลองการสอน เรียกว่า NPU Model ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นที่ 1 N- Need Analysis
        1.1 วิเคราะห์จุดหมายในการเรียนรู้นักศึกษาวิเคราะห์หลักการจัดการศึกษาทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่21 และ     จุดหมายของการศึกษาในระดับสากล  (World class Education) เพื่อกำหนดจุดหมายในการเรียนรู้วิชา “การพัฒนาหลักสูตรและนำไปกำหนดจุดหมายของหลักสูตรที่นักศึกษาจะต้องพัฒนาขึ้น
         1.2 การวางแผนการเรียนรู้ผู้เรียนวางแผนการเรียนรู้ด้วยตนเอง
 1)กำหนดกลยุทธการพัฒนาตนเองจากการศึกษาเอกสารหนังสือหลักฐานร่องรอยหรือการสืบค้นในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตหรือปฏิบัติกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้กระบวนการพัฒนาหลักสูตร
  2) จัดทำปฏิทินและเครื่องมือในการกำกับติดตามเพื่อการประเมินตนเองในการพัฒนาหลักสูตร
ขั้นที่  2 P-/Praxis
2.1 การพัฒนาทักษะการเรียนรู้นักศึกษาศึกษาเรียนรู้ด้วย การแสวงหาและใช้แหล่งการเรียนรู้ทั้งในรูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือและการเรียนรู้ร่วมกันการใช้วิธีการต่างๆในการเรียนรู้ และการตรวจสอบความรู้กระบวนการพัฒนาหลักสูตร
    2.1.1 การแสวงหาและใช้แหล่งการเรียนรู้
    2.1.2 การใช้วิธีการต่างๆ ในการเรียนรู้
      2.1.3 การตรวจสอบความรู้นักศึกษาจะได้รับการสนับสนุนให้ทำกิจกรรมการปฏิบัติการใช้คอมพิวเตอร์และกิจกรรมกลุ่มมีการแลกเปลี่ยนความคิดของนักศึกษาเปิดการอภิปรายให้กว้างขวางเสนอหลักฐานร่องรอยของความคิดของนักพัฒนาหลักสูตรเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้อภิปรายกับกลุ่มเพื่อนภายใต้บรรยากาศการเรียนรู้ที่สนับสนุนซึ่งกันและกัน
2.2การสรุปความรู้และการวิพากษ์ความรู้ผู้สอนส่งเสริมให้นักศึกษาได้อธิบายแนวคิดกระบวนการพัฒนาหลักสูตรโดยใช้ภาษาของตนเองสอบถามถึงหลักฐานและความชัดเจนในการอธิบายของนักศึกษาที่ใช้ความรู้เดิมหรือประสบการณ์ที่มีมาก่อนของผู้เรียนเป็นพื้นฐานในการอธิบายในส่วนการวิพากษ์ความรู้ผู้สอนกระตุ้นให้ผู้เรียนขยายความรู้ความเข้าใจใน “กระบวนการพัฒนาหลักสูตร” ของนักศึกษาโดยผ่านประสบการณ์ใหม่ๆผู้เรียนจะได้รับการสนับสนุนให้นำความรู้ปรับใช้กับประสบการณ์ ในชีวิตจริงโดยผ่านกระบวนการพัฒนาหลักสูตรนักศึกษานำความรู้ความเข้าใจไปประยุกต์ โดยการพัฒนาหลักสูตรเพิ่มขึ้น
ขั้นที่ 3 U-Understanding
การตรวจสอบทบทวนตนเองด้วยการประเมินความเข้าใจในการเรียนรู้-การประเมินความรู้ส่งเสริมให้นักศึกษาประเมินความรู้และความสามารถของตนเองประเมินความก้าวหน้าในการเรียนและประเมินการบรรลุจุดหมายการศึกษา ผู้วิจัยได้สังเคราะห์แนวคิดทฤษฎีและนำเสนอเป็นแบบจำลองการเรียนการสอน เรียกว่า NPU Model


รูปแบบการสอนแบบ LRU Model

LRU Model
การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้สร้างสรรค์ด้วยปัญญาเพื่อส่งเสริมความสร้างสรรค์รูปแบบการเรียนรู้สร้างสรรค์ด้วยปัญญา มีชื่อว่า LRU Model มี 3 ขั้นตอน คือ 
1) การกำหนดเป้าหมายการเรียนรู้ (L) 
2) การวิจัยเพื่อกำหนดสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้ (R) 
3) การใช้วิจัยเชิงปฏิบัติการเพื่อประเมินพัฒนาการเรียนรู้ (U)

การออกแบบและพัฒนารูปแบบการเรียน

ตารางการออกแบบและพัฒนารูปแบบการเรียน
รูปแบบการสอน
ขั้นที่ 1
ขั้นที่ 2
ขั้นที่ 3
Constructionism
1. Explore    
การสำรวจตรวจค้น
คือขั้นตอนนี้บุคคลจะเริ่มสำรวจตรวจค้นหรือพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งใหม่ (assimilation) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อได้พบหรือ ปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆที่ไม่มีอยู่ในสมองของตน ก็จะพยายามรับหรือดูดซึมเก็บเข้าไปเป็นความรู้ใหม่
2. Experiment
การทดลอง คือขั้นตอนนี้จะเป็นการทดลองทำภายหลังจากที่มีการสำรวจไปแล้วเป็นการปรับความแตกต่างระหว่างของใหม่กับของเดิมจนเกิดความเข้าใจว่าควรจะทำอย่างไรกับสิ่งใหม่นี้ต่อไป
3. Learning by doing การเรียนรู้จากการกระทำ คือการลงมือปฏิบัติแล้วสร้างองค์ความรู้ใหม่เป็นองค์ความรู้ของตนเอง ขั้นตอนนี้จะเป็นการผสมผสานระหว่างการรับหรือดูดซึม และการปรับความแตกต่าง
Biggs 3P Model
1. ครูนำ เสนอบทเรียนในขั้นนำ เสนอ (P1 = Presentation)โดยนำ เสนอเป็นรูปประโยคที่ใช้ในการสื่อสาร (Whole Language) ไม่แยกสอนเป็นคำ ๆ นักเรียนจะเข้าใจภาษานั้นโดยภาพรวม หลีกเลี่ยงการแปลคำ ต่อคำ การนำ เสนอต้องชัดเจน และตรวจสอบจนแน่ใจว่านักเรียนเข้าใจสิ่งที่ครูนำ เสนอนั้น
2. ครูใช้กิจกรรมในขั้นฝึก (P2=Practice) อย่างหลากหลาย โดยยึดนักเรียนเป็นศูนย์กลาง  ฝึกหัดและพูดในกลุ่มใหญ่ก่อน ฝึกกลุ่มโดยใช้การฝึกลูกโซ่  ฝึกคู่เปลี่ยนกันถามตอบ และก็ฝึกเดี่ยวโดยพูดกับครูทีละคน
3. กิจกรรมขั้นนำ เสนอผลงาน P3 (Production) เป็นขั้นที่นักเรียนจะนำ ภาษาไปใช้ ครูอาจจะให้ทำ แบบฝึกหัด อ่านและเขียนร้องเพลงหรือเล่นเกม ที่สืบเนื่องและเกี่ยวข้องกับภาษาที่เรียนมาในขั้นที่ 1 และ 2 อาจให้ทำ งานเป็นการบ้านหรือสร้างสรรค์ผลงาน
Su learning Model
1. ผู้เรียนกำหนดกรอบวัตถุประสงค์การเรียนรู้ของตนเอง ด้วยการระบุ ความรู้และการปฏิบัติโดยระบุความรู้ ในรูปของสารสนเทศหรือdeclarative knowledge และระบุทักษะ การปฏิบัติ (โครงงาน งานภาระงาน) กลยุทธ์ ทักษะ หรือกระบวนการ หรือprocedural knowledge และคุณลักษณะอันพึงประสงค์
2. ผู้เรียนออกแบบการเรียนรู้ และระบุเกณฑ์คุณภาพวัตถุประสงค์การเรียนรู้เป็นค่าระดับตามโครงสร้างการสังเกตผลการเรียนรู้ (structure of observed learning out-comes:SOLO Taxonomy)
กรณีที่วัตถุประสงค์เป็นความรู้ความเข้าใจ จะระบุเป็นการเรียนรู้ร่วมกัน(collaborative learning)หรือการเรียนรู้แบบนำตนเอง (self-directed learning)โดยคำนึงถึงความมีประสิทธิผลและมีประสิทธิภาพ ถ้าผู้เรียนต้องการการเรียนรู้แบบการมีความคิดวิจารณญาณ จำเป็นจะต้องใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือกัน(cooperative learning) มีการอภิปรายเรื่องราวที่เรียนรู้ กลยุทธการเรียนรู้แบบท างานเป็นทีม หรือกลยุทธการเรียนรู้เพื่อการบรรลุวัตถุประสงค์
DRU Model
1. P= Planning การวางแผน
D = Design การออกแบบและการพัฒนา
C = Cognitive network  ความรู้ความกระจ่างชัด
A = Affective network    การเรียนรู้จากเพื่อนร่วม วิชาชีพ
2. C= Cognitive network  ความรู้ความกระจ่างชัด
L = Learning การเรียนรู้
M = Management  การจัดการ,การควบคุม
S = Strategic network กลวิธี



3. A = Assessment การประเมินค่า
S = Strategic network  กลวิธี
A = Affective network  การเรียนรู้จากเพื่อนร่วมวิชาชีพ
E = Evaluation  การประเมินผล


การทดลองใช้การวิจัยในชั้นเรียน
1. Pre Test
สังเกตพฤติกรรมของผู้เรียน
- ตั้งปัญหาที่จะศึกษา
เด็กนักเรียนชั้น ม.บกพร่องการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม
2. สมมุติฐาน
ถ้านักเรียนในชั้นเรียนได้แสดงทัศนคติร่วมกันและได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันในการทำกิจกรรมต่างๆพอสมควร ดังนั้นนักเรียนจะสามารถทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. เลือกใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ DRU Model (K, A, P)
ผลการเรียนรู้
คำแสดงกริยาเชิงพฤติกรรม
1. ความรู้(K)
บอก เล่า อธิบาย ระบุ ยกตัวอย่าง ฯลฯ
2. กระบวนการ(P)
2.1 กระบวนการคิด
จำแนก จัดกลุ่ม เปรียบเทียบ นำไปใช้ ประยุกต์ วิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมิน ตัดสินใจ แก้ปัญหา ฯลฯ
2.2 กระบวนการกลุ่ม และกระบวนการสังคม
ทำงานเป็นกลุ่ม  แสดงบทบาทหัวหน้า เลขา และ สมาชิกกลุ่ม มีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับผู้อื่น
2.3 การปฏิบัติ
ทดลอง ทำกิจกรรม สร้าง ออกแบบ พัฒนา ใช้อุปกรณ์ ใช้เครื่องมือ ฯลฯ
2.4 กระบวนการสื่อสาร
ฟัง พูด อ่าน เขียน ฯลฯ
3.คุณลักษณะอันพึงประสงค์และเจตคติ  (A)
ตระหนัก ยอมรับ  สนใจ ใฝ่รู้ รับผิดชอบ ซื่อสัตย์
4. Port Test    
สรุปผลการตั้งสมมติฐาน
        ระยะเวลา 2 อาทิตย์ นักเรียนชั้น ม.มีพฤติกรรมที่มีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้น หลังจากผ่านกระบวนการที่ได้นำมาใช้ นักเรียนสามารถทำงานร่วมกัน อภิปรายและประสานงานกันได้ดีอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้บรรยากาศในการเรียนภายในห้องเรียนเป็นไปอย่างสนุก ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้นจากการกล้าแสดงออกทางความคิด 
การเปรียบเทียบการสอนรูปแบบเก่ากับรูปแบบใหม่
การสอนรูปแบบเก่า
การสอนรูปแบบใหม่ (DRU)
ขั้นนำ

ครูให้นักเรียนทบทวนความรู้เดิม ยกตัวอย่างสิ่งที่อยู่รอบๆตัว
ครูใช้คำถามเพื่อให้นักเรียนตอบ
ครูมีกิจกรรมก่อนเข้าสู่บทเรียน เช่น ร้องเพลง เต้น หรือใช้เกม
Planning การวางแผน
นักเรียนออกแบบการจัดการเรียนรู้
นักเรียนค้นคว้า เรียนรู้จาก PPT,E-Book,ใบความรู้
นักเรียนคุยกับเพื่อน กับผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ
ขั้นสอน

ครูให้นักเรียนทำการทดลอง
ครูสอนแบบบรรยาย โดยใช้หนังสือหรือ ใช้ Power Point (PPT)
ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดลงสมุด หนังสือ
Cognitive network  ความรู้ความกระจ่างชัด
นักเรียนเลือกได้ว่าจะเรียนรู้จาก PPT,E-Book หรือใบความรู้
นักเรียนเรียนรู้อย่างมีความสุข
นักเรียนกำหนดกลวิธีในการเรียนรู้
ขั้นสรุป

ครูให้นักเรียนทำใบงาน
ครูให้นักเรียนนำเสนอผลงาน
ครูให้นักเรียนสรุปโดยทำแผนผังความคิด
Assessment การประเมินค่า
นักเรียนมีกลวิธีในการเรียนรู้ การแบ่งงาน ทำงานตามความสามารถ
นักเรียนประเมินตรวจสอบ หรือทบทวนตัวเอง
นักเรียนคุยกับเพื่อน ผู้รู้ และผู้เชี่ยวชาญ


สรุปข้อสอบปลายภาควิชาการพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์


ข้อสอบปลายภาคเรียน รายวิชา 1042404 การพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์
คณะคุรุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชัฏธนบุรี
1. ปรนัย 4 ตัวเลือก 10 ข้อ (เนื้อหาใน PPTX ทั้งหมด)
2. อัตนัย 2 ข้อ
        2.1 เขียนวิเคราะห์เปรียบเทียบการใช้รูปแบบแผนการสอนอันเก่า (5E) และรูปแบบแผนการสอนอันใหม่ (DRU Model) +บทบาทครู บทบาทนักเรียน
ขั้นที่
รูปแบบแผนการสอน 5E
รูปแบบแผนการสอน DRU Model
 1.ขั้นนำ
ขั้นสร้างความสนใจ
เป็นการนำเข้าสู่บทเรียนหรือเรื่องที่สนใจซึ่งเกิดขึ้นจากความสงสัย เรื่องที่น่าสนใจอาจมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในช่วงเวลานั้น หรือเป็นเรื่องที่เชื่อมโยงกับความรู้เดิมที่เพิ่งเรียนรู้มาแล้ว
บทบาทครู ครูเป็นผู้นำ อภิปรายตั้งคำถามให้ผู้เรียนตอบ ใช้คำถามกระตุ้นผู้เรียน
บทบาทนักเรียน ผู้เรียนตอบคำถามและอภิปรายข้อสงสัย
การวินิจฉัยความต้องการในการเรียนรู้ 
ใช้คำถามกระตุ้นความคิดในการกำหนดจุดมุ่งหมายการเรียนรู้
ใช้คำถามเพื่อให้ผู้เรียนคิดพัฒนาการในการเรียนรู้ โดยอาศัยแนวคิดการกำหนดเกณฑ์คุณภาพเป็นค่าระดับตามโครงสร้างการสังเกตผลการเรียนรู้ (SOLO Taxonomy) อันส่งผลให้ประสบความสำเร็จในการเรียนรู้
ผู้เรียนออกแบบการเรียนรู้หรือเลือกกลยุทธ์การเรียนรู้ของตนเอง ที่คาดว่าจะช่วยให้ผู้เรียนประสบความสำเร็จในการเรียนรู้ โดยคำนึงถึงความมีประสิทธิผลและมีประสิทธิภาพ
บทบาทครู วิเคราะห์ผู้เรียน วางแผนการเรียนรู้เพื่อบรรลุจุดมุ่งหมาย
บทบาทนักเรียน การตอบคำถามทำให้ผู้เรียนรู้จักว่าตัวเองมีความรู้เรื่องที่จะเรียนมากน้อยเพียงใด
 2.ขั้นสอน
 ขั้นสำรวจและค้นหา
เมื่อทำความเข้าใจในประเด็นหรือคำถามที่สนใจจะศึกษาอย่างถ่องแท้แล้ว กำหนดทางเลือกที่เป็นไปได้ ลงมือปฏิบัติเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล ข้อสนเทศ 
ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป
เมื่อได้ข้อมูลอย่างเพียงพอจากการสำรวจตรวจสอบแล้ว จึงนำข้อมูล ข้อสนเทศที่ได้มาวิเคราะห์ แปลผล สรุปผลและนำเสนอผลที่ได้
ขั้นขยายความรู้
เป็นการนำความรู้ที่สร้างขึ้นไปเชื่อมโยงกับความรู้เดิมหรือความคิดที่ได้ค้นคว้าเพิ่มเติมหรือนำแบบจำลองหรือข้อสรุปที่ได้ไปใช้อธิบายสถานการณ์หรือเหตุการณ์อื่น ๆ
บทบาทครู เป็นผู้ชี้แนะแนวทางหรือแนะนำการปฏิบัติ สืบค้น ในขั้นขยายความรู้ส่วนมากครูจะเป็นผู้ขยายความรู้เพิ่มเติมให้ผู้เรียนฟัง
บทบาทนักเรียน สืบค้นข้อมูลและสรุป 
ขั้นตอนการวิจัยเพื่อกำหนดสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้           ประกอบด้วยขั้นตอน 5 ขั้น คือ
          1) วิเคราะห์ปัญหา
          2) วางแผนแก้ปัญหา
          3) จัดกิจกรรมแก้ปัญหา
          4) เก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล
          5) สรุปผลการแก้ปัญหา          
บทบาทครู การตั้งประเด็นปัญหาให้ผู้เรียนและค่อยแนะนำให้คำปรึกษาแก่ผู้เรียน
บทบาทนักเรียน สืบค้นข้อมูลแก้ปัญหาในประเด็นคำถามที่ได้มา และนำความรู้มาวิเคราะห์สรุปผล
 3.ขั้นสรุป
ขั้นประเมิน
เป็นการประเมินการเรียนรู้ด้วยกระบวนการต่าง ๆ ว่าผู้เรียนมีความรู้อะไรบ้าง และมีความรู้มากน้อยเพียงใด 
บทบาทครู กำหนดสิ่งที่จะประเมินผู้เรียนตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ โดยต้องมีเกณฑ์กำหนดด้วย ครูตอบคำถามข้อสงสัยของผู้เรียน
บทบาทนักเรียน การทำแบบทดสอบหรือการตอบคำถามจากครูรวมทั้งการตอบคำถามข้อที่ยังสงสัยกับครู
การตรวจสอบทบทวนโดยใช้แนวคิดUDL เพื่อการประเมินการพัฒนาการเรียนรู้
เป็นขั้นที่ให้ผู้เรียนและครูประเมิน ตรวจสอบทบทวนตนเองและการยืนยันความถูกต้อง ผลผลิตตามขั้นตอนนี้คือ ผลประเมินการเรียนรู้ตามแนวคิด (SOLO Taxonomy)
บทบาทครู กำหนดเกณฑ์การประเมิน และวิธีการประเมิน โดยมีการประเมินที่หลากหลายให้ผู้เรียนได้เลือก
บทบาทนักเรียน ตรวจสอบความถูกต้อง ทบทวนสิ่งที่ได้เรียน สามารถนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง มีข้อสงสัยอะไรถาม ครู ผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อน

          2.2 ตารางวิเคราะห์เนื้อหาความรู้ตามรายวิชาที่เปิดสอน เทียบกับสาระความรู้ตามมาตรฐานที่คุรุสภากำหนด
 มาตรฐานความรู้
วิชาการพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์
1.ความเป็นครู
ความรูเบื้องต้นเกี่ยวกับรูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์แบบต่างๆ 
พัฒนาบุคคลการเลือกรูปแบบการสอนให้เหมาะสมกับนักเรียนในแต่ละชั้นเรียน
2.ปรัชญาการศึกษา
รูปแบบการสอนเพื่อพัฒนาสติปัญญาและทักษะกระบวนการ
รูปแบบการสอนที่เหมาะสมกับการสอนทางวิทยาศาสตร์
(กลวิธีการจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืน)
ด้านความรู้
ปรัชญาสารัตถนิยม
ปรัชญานิรันดรนิยม
ด้านผู้เรียน - ปรัชญาอัตถิภาวะนิยม
ด้านสังคม - ปฏิรูปนิยม
3.ภาษาและวัฒนธรรม 
การทดลองสอนตามรูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น
(การพูด การสื่อสาร การเขียนและอ่าน)
4.จิตวิทยาสำหรับครู 
การจัดการเรียนรูเปนกระบวนการปฏิสัมพันธระหวางผูสอนกับผูเรียน
การจัดการเรียนรูมีจุดประสงคใหผูเรียนเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
1.ดานความรูความคิด (พุทธิพิสัย)
2.ดานทักษะกระบวนการ (ทักษะพิสัย)
3.ดานเจตคติ (จิตพิสัย)
การจัดการเรียนรูจะบรรลุจุดประสงคไดดีตองอาศัยทั้งศาสตรและศิลปของผูสอน
5.หลักสูตร 
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551
(สาระ,มาตรฐาน,ตัวชี้วัด)
รูปแบบการสอนเพื่อพัฒนาสติปัญญาและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อพัฒนาบุคคลการเลือกรูปแบบการสอนให้เหมาะสมกับนักเรียนในแต่ละชั้นเรียน
(สามารถนำไปพัฒนาหลักสูตรและประเมินผลและนำผลนั้นไปใช้จริงได้)
6.การจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์แบบต่างๆ 
รูปแบบการสอนเพื่อพัฒนาสติปัญญาและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (การจัดทําแผนการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้และสิ่งแวดล้อมเพื่อการเรียนรู้)
การทดลองสอนตามรูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น (สามารถจัดทําแผนการเรียนรู้และนําไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลจริง และนําไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลจริง)
7.การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ 
รูปแบบการสอนเพื่อพัฒนาสติปัญญาและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (การจัดทําแผนการเรียนรู้แผนใหม่ การจัดการเรียนรู้และสิ่งแวดล้อมเพื่อการเรียนรู้)
รูปแบบการสอนที่เหมาะสมกับการสอนวิชา ชีววิทยา เคมี และฟิสิกส์เพื่อพัฒนาบุคคลการเลือกรูปแบบการสอนให้เหมาะสมกับนักเรียนในแต่ละชั้นเรียน (สามารถจัดทําแผนการเรียนรู้แบบใหม่และสามารถสร้างบรรยากาศการจัดการชั้นเรียนให้ผู้้เรียนเกิดการเรียนรู้แบบไม่น่าเบื่อและหลากหลายแบบให้ผู้เรียนเป็นคนเลือก)
การทดลองสอนตามรูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น (สามารถทำวิจัยในการพัฒนาผู้เรียนได้)
8.นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
การทดลองสอนตามรูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น (ประยุกต์ใช้และประเมินสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อการเรียนรู้)
การใช้ PPTX,E-book
9.การวัดและประเมินผลการเรียนรู้   
การทดลองสอนตามรูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น
(สามารถนําผลการประเมินไปใช้ ในการพัฒนาผู้เรียน)
10.การประกันคุณภาพการศึกษา 
การประกันคุณภาพภายใน เป็นการสร้างระบบและกลไกในการพัฒนาติดตามตรวจสอบและประเมินการดำเนินงานของสถาบันอุดมศึกษาให้เป็นไปตามนโยบายเป้าหมายและระดับคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนดโดยสถานศึกษาและหรือหน่วยงานต้นสังกัด
การประกันคุณภาพภายนอก เป็นการประเมินผลและการติดตามตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาจากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ)
(จะทำให้สามารถจัดการคุณภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และสามารถดําเนินการจัดกิจกรรมประเมินคุณภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้)
11.คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ
จรรยาบรรณความเป็นครู
จรรยาบรรณในการวิจัยในชั้นเรียน
12.การฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียน
13.การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาในสาขาวิชาเฉพาะ